แผนกลยุทธ์ 4 ปี (พ.ศ. 2568 - 2571) สำนักบรรณสารการพัฒนา

nidaLib-header-logo

องค์ประกอบของสถาบัน

การสร้าง “ปัญญา”

         เป็นเวลากว่า 15 ปีกับปรัชญา WISDOM for Change สร้างปัญญาเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่ WISDOM for Sustainable Development สร้างปัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้มีการเปลี่ยนแปลงปรัชญาครั้งสำคัญ เป็นการ “เปลี่ยน” เพื่อให้เห็นถึงบทบาทของ “นิด้า” ในการเป็นสถาบันที่สรรสร้างปัญญาของสังคมและสร้างผู้นำเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนสู่ระดับสากลด้วย 3 สร้าง
1. “สร้าง” ปัญญาของสังคม แก้และพัฒนาสังคม
2. “สร้าง” ผู้นำสำหรับศตวรรษที่ 21 สู่ผู้นำระดับโลก
3. “สร้าง” ประโยชน์ให้กับสังคม

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ถือกำเนิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สถาบันจึงน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานแก่บัณฑิตทั้งหลายในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งแรกของสถาบัน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2513 มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติภารกิจ โดยนำความรู้และคุณธรรม มาสร้างปัญญา สร้างจิตสำนึก และความรับผิดชอบต่อสังคม ประเทศชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อยกระดับให้เป็นสถาบันการศึกษาของประเทศ ที่มีศักยภาพพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

ข้อความตามพระบรมราโชวาท ซึ่งสถาบันน้อมนำมาใช้เป็นปณิธานของสถาบัน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

...ท่านทั้งหลายที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ เป็นผู้ที่เชื่อได้ว่า มีความรู้ความสามารถสูง จึงเป็นที่หวังของคนไทยทั้งชาติ รวมทั้งของข้าพเจ้าด้วย ที่จะได้อาศัยความรู้ ความคิด สติปัญญา และความสามารถ ในอันที่จะนำพาประเทศชาติให้ก้าวไปสู่ความมั่นคงและสมบูรณ์พูนสุข ขอให้ท่านรับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ด้วยความมั่นใจ ตั้งใจและบริสุทธิ์ใจ แล้วร่วมกันปฏิบัติหน้าที่น้อยใหญ่ให้ลุล่วงไป ด้วยความขยันหมั่นเพียรและด้วยความสุจริต เที่ยงตรง ทั้งต่อตนเองและต่อประชาชน...

“เป็นสถาบันสรรค์สร้างปัญญาของสังคม และสร้างผู้นำเพื่อไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสากล”
จากวิสัยทัศน์ของสถาบันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดหวัง 3 ประการ คือ

1) สร้างปัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

2) สร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

3) สร้างประโยชน์ให้ชุมชนและสังคม

เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ของสถาบัน จึงกำหนดพันธกิจที่ต้องดำเนินการไว้ ดังต่อไปนี้

1) สร้างผู้นำที่มีปัญญาคู่คุณธรรมเพื่อพัฒนาประเทศ

2) สร้างองค์ความรู้ ศึกษาวิจัย ด้านการบริหารการพัฒนา

3) สร้างงานบริการวิชาการที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศ

4) สร้างเสริมค่านิยมและจิตสำนึกมุ่งมั่นพัฒนาประเทศ บนพื้นฐานความเข้มแข็งของศิลปวัฒนธรรมไทย

5) สร้างเสริมการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล โดยให้คุณค่ากับการพัฒนาและการมีส่วนร่วมของบุคลากร

6) สร้างประโยชน์ให้กับสังคมเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

 

W – WISDOM“ปัญญา”

การเป็นผู้มีความรอบรู้ในศาสตร์และสนใจใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเปิดรับมุมมองใหม่ๆ  จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง


I – INTEGRITY “ความซื่อตรง”

การเป็นผู้มีความซื่อสัตย์และมีความแน่วแน่ที่จะปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง โดยยึดมั่นในหลักการและมาตรฐานจรรยาบรรณ และจริยธรรมของศาสตร์และสาขาวิชาชีพ

S – SUSTAINABLE IMPACTS “การสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน”

การเป็นผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกพร้อมมีบทบาทและส่วนร่วมกับภาคีการพัฒนาผ่านการลงมือปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการสร้างคุณค่าร่วมอย่างยั่งยืนในสังคม

 E – EMPATHY “ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น”
การเป็นผู้ใส่ใจในความรู้สึก ความคิดและความต้องการของผู้อื่น โดยทำความเข้าใจในบริบทและสภาวการณ์ที่ผู้อื่นกำลังเผชิญ ตลอดจนการเปิดใจรับมุมมองที่หลากหลายและเคารพความคิดที่แตกต่าง

“W I S E” จึงเป็นค่านิยมหลักที่จะช่วยส่งเสริมให้พวกเราชาวนิด้า สามารถนำปัญญาหรือองค์ความรู้ไปใช้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยอาศัยความซื่อตรง และความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ซึ่งค่านิยมหลักใหม่นี้                      จะกลายเป็นกรอบความคิดที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมขององค์กร พร้อมทั้งเป็นส่วนสำคัญ  ในการขับเคลื่อนสถาบันไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน

1) ยุทธศาสตร์ที่ 1 สนับสนุนการทำวิจัย การต่อยอดสู่นวัตกรรม และการบริการวิชาการ ที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสถาบันและประเทศชาติ

2) ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาหลักสูตรปริญญาบัตร (Degree Programs) ที่เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติ (Project-based Learning) และการวิเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศอย่างเป็นระบบ (Data Analytics) เพื่อการตัดสินใจ และการบริหาร

3) ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) บนพื้นที่การเรียนรู้ และผ่านช่องทางที่หลากหลาย สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย

4) ยุทธศาสตร์ที่ 4 ขับเคลื่อนการพลิกโฉมด้วยดิจิทัลเทคโนโลยี และการบริหารจัดการแบบเปิด (Open Governance)

5) ยุทธศาสตร์ที่ 5 ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในระดับนานาชาติ (Internationalization)

6) ยุทธศาสตร์ที่ 6 สร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสถาบัน (Stakeholders’ Participation and Engagement) รวมทั้งการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาสถาบันและสังคม 

สมรรถนะหลักของสถาบัน (Core Competencies)

          “มีความเป็นเลิศในศาสตร์ด้านการบริหารการพัฒนาที่ตอบสนองต่อการพัฒนาองค์การ ชุมชน สังคม ระดับประเทศ และระดับสากล”

 

องค์ประกอบของสำนักบรรณสารการพัฒนา

“เป็นห้องสมุดที่เป็นศูนย์กลางความรู้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้บริการวิชาการอัจฉริยะและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต”

สำนักบรรณสารการพัฒนามีภาระหน้าที่ ดังนี้

  1. ให้บริการในลักษณะมุ่งสู่ผู้ใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทางด้านการวิจัยและ การเรียนรู้
  2. ดำเนินการจัดหา จัดเก็บ สงวนรักษา และให้บริการสืบค้นทรัพยากรสารสนเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาไปสู่ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างความเข้มแข็งในสาขาพัฒนบริหารศาสตร์
  3. เผยแพร่องค์ความรู้ที่พัฒนาโดยบุคลากรของสถาบัน
  4. ส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตทางด้านสาขาพัฒนบริหารศาสตร์
  5. สนับสนุนการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกัน ทั้งในระดับชุมชน ประเทศ ภูมิภาค และนานาชาติ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและการเรียนรู้ทางด้านสาขาพัฒนบริหารศาสตร์

การเป็นห้องสมุดชั้นนำและมีมาตรฐานสากลในการให้บริการทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการศึกษาและวิจัยในสาขาพัฒนบริหารศาสตร์ และสาขาวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของสถาบัน ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนและสอดคล้องกับการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของสถาบัน นอกจากนี้ ห้องสมุดยังต้องส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของสมาชิกในสังคมอีกด้วย

  • ความพึงพอใจและความร่วมมือของผู้ใช้บริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
  • การมีทรัพยากรที่เหมาะสมและเพียงพอรวมทั้งตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการและศาสตร์ที่สถาบันทำการเรียนการสอนและทำการศึกษาวิจัย รวมทั้งการเป็นแหล่งเรียนรู้ในศาสตร์การบริหารการพัฒนา

“ใส่ใจให้บริการด้วยมาตรฐานสากล”  (Library Services with Remarkable Standard)

 

ยุทธศาสตร์ที่ 1: การบริหารทรัพยากรสารสนเทศและองค์ความรู้อย่างชาญฉลาด

เป้าหมาย: ยกระดับการจัดการสารสนเทศให้เป็น Smart Knowledge Hub ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI

กลยุทธ์:

  1. พัฒนาระบบ Library AI Assistant ค้นหา แนะนำ และสรุปเนื้อหาวิชาการ
  2. จัดทำระบบ Institutional Repository ด้วย AI metadata tagging อัตโนมัติ
  3. วิเคราะห์แนวโน้มการใช้ทรัพยากรด้วย AI เพื่อปรับกลยุทธ์จัดหาทรัพยากร
  4. เปิดคลัง Open Access / Research Data Repository ร่วมกับพันธมิตรวิชาการ

ยุทธศาสตร์ที่ 2: การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบ Agile

เป้าหมาย: เสริมทักษะบุคลากรด้วยเครื่องมือ AI และความสามารถข้ามสาขา

กลยุทธ์:

  1. จัดทำ AI-driven Learning Path และ Microlearning สำหรับเจ้าหน้าที
  2. พัฒนาทักษะ Digital Literacy, Data Analysis, English for AI communication
  3. จัด KM ผ่านระบบ AI Chat หรือ CoP ระบบปัญญาประดิษฐ์
  4. ส่งเสริมการหมุนเวียนตำแหน่งแบบ Cross-functional teams

ยุทธศาสตร์ที่ 3: การให้บริการอัจฉริยะเพื่อผู้ใช้ทุกกลุ่มเป้าหมาย

เป้าหมาย: มอบประสบการณ์ “Library-as-a-Service” ผ่านระบบที่คาดการณ์และตอบสนองแบบอัตโนมัติ

กลยุทธ์:

  1. ติดตั้ง AI Chatbot 24/7 สำหรับตอบคำถาม บริการค้นคว้า และยืมคืน
  2. พัฒนาระบบ Personalized Notification และ Smart Reminder สำหรับผู้ใช้
  3. สร้างห้องเรียนรู้เสมือน (Virtual Learning Zone) และ Smart Booking
  4. สำรวจความพึงพอใจด้วยแบบสอบถามที่ใช้ NLP วิเคราะห์ความเห็น

 

ยุทธศาสตร์ที่ 4: การบริหารจัดการองค์กรด้วยระบบอัจฉริยะและมาตรฐานสากล

เป้าหมาย: ขับเคลื่อนองค์กรด้วย Data-Driven & AI-Enhanced Decision Making

กลยุทธ์:

  1. เชื่อมระบบ e-Doc, ERP, MIS เข้าด้วยกันผ่าน AI middleware
  2. นำ AI มาช่วยวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานรายไตรมาส
  3. พัฒนา Dashboard ผู้บริหารแบบ Real-time บนฐานข้อมูลสถิติภายใน
  4. รับรองมาตรฐาน CoreTrustSeal + ออกแบบแผนควบคุมภายในด้วย AI

ยุทธศาสตร์ที่ 5: การขยายบทบาทห้องสมุดในสังคมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

เป้าหมาย: เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และนวัตกรรมเพื่อสังคม

กลยุทธ์:

  1. จัดโปรแกรม Library for Community เช่น “AI for Everyone” หรือ “Digital Literacy Bootcamp”
  2. พัฒนาบริการ Mobile Library ด้วยระบบออนไลน์ (e-Mobile)
  3. ขยายความร่วมมือ MOU กับเครือข่ายห้องสมุดนานาชาติแบบ Cloud Resource Sharing
  4. ส่งเสริมบทบาทห้องสมุดเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ/เสวนาวิชาการรายเดือน

ตัวชี้วัดสำคัญ (Key Performance Indicators – KPI)

  1. อัตราการใช้บริการดิจิทัล ≥ 70% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด
  2. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ≥ 90%
  3. จำนวนโครงการ AI/นวัตกรรมที่ดำเนินการ ≥ 10 โครงการ
  4. เปอร์เซ็นต์บุคลากรผ่านการอบรมทักษะ AI/Digital ≥ 80%
  5. รายงานวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ อย่างน้อย 1 ฉบับต่อไตรมาส

 

Skip to content